วาระครบปีที่ 45 ของ เครดอร์ ได้รับการเฉลิมฉลองด้วยนาฬิกาพกผลิตจำนวนจำกัดที่มาพร้อมกับงานแกะสลักรูปแบบสามมิติ
เรือนเวลา เครดอร์ ที่รังสรรค์ด้วยบรรดาเทคนิคอันประณีตละเอียดอ่อนบนพื้นฐานแห่งความแม่นยำและความงดงามตามแบบฉบับของชาวญี่ปุ่นได้ถือกำเนิดขึ้นมาในปี 1974 ชื่อ เครดอร์ มีที่มาจากภาษาฝรั่งเศสว่า “คเรต ดิออร์” ซึ่งหมายถึง “เครสต์ ออฟ โกลด์” (ยอดของทองคำ)
แต่ละชิ้นส่วนตั้งแต่เครื่องไปจนถึงส่วนประกอบที่ละเอียดงดงามที่สุดล้วนถูกสร้างขึ้นจากวัสดุชนิดต่าง ๆ ที่เลือกสรรโดยยอดนักประดิษฐ์นาฬิกาและช่างฝีมือ เพื่อให้มั่นใจถึงความสวยงามและความประณีตพิถีพิถันของเรือนเวลาทุกเรือน
ปี 2019 อันเป็นวาระครบปีที่ 45 แห่ง เครดอร์ นี้ได้รับการเฉลิมฉลองด้วยผลงานชิ้นเอกที่ผลิตขึ้นแบบจำนวนจำกัดเพียงสิบเรือนในโลกเท่านั้น
ระดับสูงสุดแห่งศิลปะงานฝีมือในทุกรายละเอียด
เรือนเวลารุ่นนี้ใช้เครื่องคาลิเบอร์ 6898 อันเป็นเครื่องที่มีขนาดบางเป็นพิเศษที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของซีรี่ส์เครื่องคาลิเบอร์ 68 จากปี 1969 งานแกะสลักรูปแบบสามมิติบนเครื่องของรุ่นนี้ปรากฎให้เห็นอยู่ทางด้านหลังของตัวเรือนอันเพรียวบาง
โดยเป็นผลงานที่มีเพียงผู้มีฝีมืออยู่ในระดับสูงสุดเท่านั้นที่สามารถกระทำได้
ช่างแกะสลักโลหะ คิโยชิ เทรุอิ ผู้ได้รับการยอมรับจากรัฐบาลญี่ปุ่นในปี 2002 ให้มีฐานะเป็นช่างฝีมือร่วมสมัยผู้ชำนาญ ได้นำนาฬิกาพกมารังสรรค์ให้มีชีวิตขึ้นมาโดยทุ่มเทเวลาทำงานมากกว่า 100 ชั่วโมงให้กับการแกะสลัก ดีไซน์การออกแบบ “ต้นไม้แห่งชีวิต”
มีศูนย์กลางอยู่ที่ต้นไม้เพื่อแสดงให้เห็นถึงเส้นทางอันกว้างใหญ่ของกาลเวลาที่ต้นไม้ต้นนี้ยืนหยัดข้ามผ่านมา และเป็นการแสดงถึงบ้านของรูปแบบชีวิตที่แตกต่างกันโดยมีลวดลายสามแบบเป็นตัวแทน
ต้นไม้แห่งชีวิต ในการแกะสลักรูปแบบสามมิติ
ต้นไม้ถูกสร้างให้มีมิติโดยทำให้มีระดับต่างกันจากการแกะสลัก การกระทำเช่นนี้ทำให้เกิดรูปแบบความกลมที่เกลี้ยงเกลาและความลึก ชิ้นงานนี้ถูกสร้างให้อยู่ภายในข้อจำกัดด้านความสูงของตัวเรือนที่มีเพียง 1.85 มม.
ลำต้นและกิ่งก้านของต้นไม้ถูกแกะสลักเพิ่มเติมให้เป็นร่องซึ่งทำให้ต้นไม้มีความโดดเด่นและความชัดเจน
สามลวดลายที่นำมาใช้ร่วมกับต้นไม้ คือ ดอกไม้ซึ่งพบในรูปแบบใบไม้ม้วนแบบดั้งเดิมที่เป็นการผสมผสานดอกโบตั๋น ดอกบัว และพืชพรรณชนิดต่าง ๆ อันเป็นที่รู้จักกันในฐานะสัญลักษณ์แห่งความโชคดี ผลทับทิมอันเป็นตัวแทนของความเจริญรุ่งเรือง และนกฮูกซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการเติบโตด้วยความสุขและความโชคดีของชาวญี่ปุ่น
ปีกนกฮูกถูกสร้างขึ้นเป็นอีกชิ้นหนึ่งโดยใช้แผ่นเปลือกหอยมุกสีดำเพื่อให้สิ่งมีชีวิตชนิดนี้แสดงความประทับใจได้มากยิ่งขึ้นเมื่อแสงถูกสะท้อนบนปีก
ลวดลายอื่น ๆ ที่ใช้ชิ้นเปลือกหอยมุกซึ่งผ่านการขัดอย่างประณีต ทำให้ดอกไม้มีความนุ่มนวล ทำให้ผลทับทิมมีความสดใส และทำให้นกฮูกมีความชัดเจน อีกหนึงลักษณะของความสุขถูกเพิ่มเติมให้กับกับเรือนเวลาด้วยการเคลื่อนไหวของระบบกลไกเครื่องที่เห็นอยู่เบื้องหลังลำต้นของต้นไม้ ด้วยตัวเรือนทองคำ 18 กะรัต
ผลงานชิ้นเอกนี้ได้แสดงถึงความแม่นยำและความหลงใหลในความสมบูรณ์แบบของเหล่าช่างฝีมือผู้สร้างให้เรือนเวลาชิ้นนี้เกิดขึ้นมาได้โดยมุ่งหมายให้เป็นที่ชื่นชมของคนรุ่นต่อไป
GXBE998
เครื่อง 6898
ระบบขับเคลื่อน: ขึ้นลานด้วยมือ
ความถี่: 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง (6 จังหวะต่อนาที)
ความแม่นยำ: +25 วินาที ถึง -15 วินาทีต่อวัน
พลังงานสำรอง: ประมาณ 37 ชั่วโมง
จำนวนทับทิม: 26
รายละเอียดทางเทคนิค
ตัวเรือนและสายสร้อยทองคำ เยลโลว์ โกลด์ 18 กะรัต
ฝาหลังทองคำ เยลโลว์ โกลด์ 18 กะรัต ร่วมด้วยชิ้นเปลือกหอยมุกสีดำรูปปีกนกฮูก
และชิ้นเปลือกหอยมุกสำหรับลวดลายอื่น ๆ
กระจกแซฟไฟร์ คริสตัล ชนิดผิวโค้งทั้งสองด้าน
การกันน้ำ: 3 บาร์
การต้านทานแม่เหล็ก: 4,800 แอมแปร์ต่อเมตร
ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง: 39 มม., ความหนา: 9.7 มม.
ราคาขายปลีกที่แนะนำ: 10 ล้านเยน ยังไม่รวมภาษี
ลิมิเต็ด เอดิชั่น ผลิตจำนวนจำกัด 10 เรือน ทั่วโลก
ข้อมูลส่วนตัวของ คิโยชิ เทรุอิ
ช่างแกะสลักโลหะแห่ง ชิสุกุ-อิชิ วอตช์ สตูดิโอ
1970: เข้าร่วมงานกับ ไดนิ ไซโกฉะ (ปัจจุบันคือ ไซโก อินสทรูเม้นท์ส อิงค์)
2002: ได้รับรางวัลช่างฝีมือดีเด่น
(ช่างฝีมือร่วมสมัยผู้ชำนาญ) อันเป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุดสำหรับช่างฝีมือ
2007: ได้รับเหรียญพร้อมกับริบบิ้นสีเหลืองจากรัฐบาลญี่ปุ่น